Top 3 ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มที่สุด ข้อมูลปี 2017

Top 3 ประกันรถยนต์ 2+
สำหรับรถเก๋ง และรถกระบะสี่ประตู 

1. 

5,986.00 ต่อปี

แอกซ่าประกันภัย 

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 Super Save (ส่วนลดCCTV) - No Excess
คุ้มครองคนในรถ 5 ที่นั่ง 

จุดเด่น- Roadside Service บริการยกรถ เติมน้ำมัน ฉุกเฉิน ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรกกรณีเป็นฝ่ายผิด 

เป็นความคุ้มครองที่ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากที่สุด เบี้ยไม่ถึง 6 พันแต่ได้ความคุ้มครอง 2+ แล้วยังได้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม.อีกด้วย จึงต้องยกให้เป็นอันดับ 1 ของประกัน 2+ ในปี 2017 นี้ 

2. 

6,556.00 ต่อปี

นวกิจประกันภัย 

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 มีรถระหว่างซ่อม (ส่วนลดCCTV) - No Excess
คุ้มครองคนในรถ 5 ที่นั่ง 

จุดเด่น- มีรถใช้ระหว่างซ่อม (กรณีเป็นฝ่ายถูกได้ถึง 7 วัน) ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก 

บริษัทมีรถไว้ทดแทนระหว่างรอซ่อม ให้สูงถึง 7 วัน และเบี้ยประกันยังไม่แพง ถูกกว่าบางแห่งที่ทุนประกัน 1 แสนเท่ากัน  จึงได้อันดับที่ 2

3.

 6,900.00 ต่อปี

อลิอันซ์ 

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 ถูกใจ - No Excess Roadside Assistance
คุ้มครองคนในรถ 7 ที่นั่ง 

จุดเด่น- Roadside Service บริการยกรถ เติมน้ำมัน กุญแจสำรอง กรณีฉุกเฉิน

-  คุ้มครอง ยาง แบต สารเหลว 100% ไม่มีค่าเสียหายส่วนแรก 

เป็นอีกบริษัท ที่ให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชม. ที่เป็นจุดเด่น กว่าประกัน 2+ จากที่อื่นๆ 

-----

สำหรับรถกระบะ 2 ประตู ตอนเดียว และตอนครึ่ง

1.

6,900.00 ต่อปี

อลิอันซ์

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 ถูกใจ - No Excess Roadside Assistance

จุดเด่น

- Roadside Service บริการยกรถ เติมน้ำมัน ฉุกเฉิน

2.

6,556.00 ต่อปี
นวกิจประกันภัย

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 มีรถระหว่างซ่อม (ส่วนลดCCTV) - No Excess

จุดเด่น

- มีรถใช้ระหว่างซ่อม (กรณีเป็นฝ่ายถูก)

3.

6,300.16 ต่อปี
สินมั่นคง

แพกเกจ 2+ ทุน 100,000 Single Rate - No Excess

จุดเด่น

- มีสาขามาก ถึงที่เกิดเหตุไว

ประกัน bigbike 3+

รีวิว แพกเกจประกัน 3+ สำหรับ Bigbike
รับประกันโดย ไทยวิวัฒน์
หรือประกันภัยไทยวิวัฒน์

ประกัน 3+ คุ้มครองอะไรบ้าง

• คุ้มครองการซ่อมตัวรถคันเอาประกันเฉพาะ กรณีรถชนรถ
• คุ้มครองบุคคลภายนอกที่ถูกเราชน
•  ไม่คุ้มครอง รถสูญหาย หรือไฟไหม้

ไทยวิวัฒน์ เปิดตัวประกัน 3+ bigbike

1. สำหรับรถขนาด 250 cc ขึ้นไป เท่านั้น 
2. แบ่งเป็น อายุ ไม่เกิน 5 ปี และ อายุ 6-10 ปี

-แพกเกจ 3+ ทุน 50,000 (Bigbike 250 CC. ขึ้นไป) (อายุ 1-5 ปี) - No Excess ราคา: 3,000.00
-แพกเกจ 3+ ทุน 25,000 (Bigbike 250 CC. ขึ้นไป) (อายุ 6-10 ปี) - No Excess ราคา: 3,000.00


ความคุ้มครอง 

1. ความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย: 300,000 บาท/คน ไม่เกิน 10,000,000 บาท/ครั้ง
2. ความรับผิดชอบต่อทรัพย์สิน: 1,000,000 บาท/ครั้ง
3. ความเสียหายต่อรถยนต์ (ทุนประกัน): 50,000 หรือ 25,000 บาท/ครั้ง
4. รถยนต์สูญหาย / ไฟไหม้: -- บาท
5. ความรับผิดส่วนแรก: -- บาท/ครั้ง ระบุ 2000 บาทไว้ในกรมธรรม์ แต่เคลมจริงอนุโลมไม่เก็บค่าดีดัก
6. อุบัติเหตุส่วนบุคคล เสียชีวิต เสียอวัยวะ: คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวม 2 คน ไม่เกินคนละ 100,000 บาท
7. ค่ารักษาพยาบาล: --
8. การประกันตัวผู้ขับขี่: 100,000 บาท/ครั้ง

นอกจากนี้ยังมีประกัน 3+มอเตอร์ไซค์ ที่ไม่กำหนดขนาด CC ให้เลือกซื้อ อีก ไม่จำเป็นต้องเป็น Bigbike เช่น

• 3+ ทุน 10,000 มอเตอร์ไซค์ (อายุ 1-5 ปี) - No Excess  โดยให้ทุนประกันที่ 1 หมื่นบาท ราคา: 1,880.00 
• 3+ ทุน 5,000 มอเตอร์ไซค์ (อายุ 6-10 ปี) - No Excess  ให้ทุนประกันที่ 5000 บาท ราคา: 1,880.00
• 3+ ทุน 10,000 มอเตอร์ไซค์ (มีค่ารักษาพยาบาล) - No Excess ไม่กำหนดอายุรถ รับประกันโดยเอเชียประกันภัย ราคา: 1,999.00
• 3+ ทุน 10,000 มอเตอร์ไซค์ - No Excess  ไม่กำหนดอายุรถ รับประกันโดยเอเชียประกันภัย  ราคา: 1,699.00 

ประสบการณ์อนุญาโตตุลาการ ของ คปภ

ประสบการณ์อนุญาโตตุลาการ ของ คปภ
ประสบการณ์ นี้เกิดจากการเรียกร้องค่าเดินทาง ระหว่างซ่อม กับ ค่าเสื่อมรถยนต์ที่เกิดจากการชนหนักและซ่อมเสร็จเอาไปขายรถราคาตก

การเรียกร้องโดยวิธีการอนุญาโตตุลาการ ครั้งนี้ ให้ทนายเป็นผู้ทำหนังสือเสนอข้อพิพาท ยื่นทางอนุญาโตตุลาการ หลังจากทนายทำหนังสือ เสร็จแล้วจะมีขั้นตอนที่ต้องนัดสืบพยาน

วันนัดต้องไปที่ คปภ รัชดา  จะต้องไปเข้าห้องสืบพยาน เป็นห้องประชุมอยู่ชั้น 2

ผู้เสนอข้อพิพาท คือฝ่าย ที่เรียกร้องเงิน
ส่วน ทางประกัน คือ ผู้คัดค้าน


ทนายฝ่ายประกัน ผู้คัดค้าน ถามอะไรบ้าง

- ถามว่ารถที่เอาไปขายแล้วได้ราคาเท่าไหร่ มีหลักฐานการซื้อขายหรือไม่
ตอบว่าไม่มีหลักฐานมาแสดง แต่มีการซื้อขายจริง อันนี้เป็นจุดอ่อน ของฝ่ายเราที่เสียเปรียบเพราะใบซื้อขายสีชมพู หากเอาไปอ้างอิง จะโดนเล่นข้อหาว่า ใครๆ ก็เขียนได้ ไม่มีน้ำหนักเพียงพอว่าเป็นการซื้อขายจริง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล เพราะการซื้อขายจริง ก็มีการออกหลักฐานซื้อขายเพียงแค่นั้น การต้องไปดิ้นรนหาหลักฐานอะไรที่เกินกว่าปกติ ย่อมไม่ถือว่าได้ความยุติธรรม

- การเดินทางไปทำงาน ที่เราเรียกร้องค่าเดินทาง มีใบเสร็จแท๊กซี่ และทางด่วนมาแสดงด้วยหรือไม่ ไม่มีหลักฐานแสดง ชีวิตจริงแท็กซี่ก็ไม่ได้ออกใบเสร็จให้ ทางด่วนก็ไม่มีใบเสร็จให้

 - การเอาราคาตลาดในเวปมาเป็นราคาอ้างอิง ลบด้วยราคาที่ขายรถได้ รู้หรือไม่ว่าเต๊นย่อมซื้อราคาต่ำ แล้วเอาไปขายต่อราคาแพง
ต้องแสดงเหตุผลว่า หลักฐานที่เอาไปเทียบเคียงเรื่องราคาตลาดของรถเรานั้น มีทั้งราคาในเวปที่เป็นเต๊นรถ และราคาในเวปที่เป็นรถบ้าน เจ้าของขายเอง ซึ่งเราเอาราคาทั้งสองแห่งมาเทียบเคียงไม่ได้เอาราคาเต็นท์เพียงอย่างเดียว

- ทำไมเรียกร้องค่าเสียหายการซ่อมรถกับประกันเราแล้ว จึงเรียกร้องค่าเดินทางและค่าเสื่อมรถกับประกันฝ่ายผิด
เพราะ ประกันฝ่่ายผิดต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียหายในหมวด ความคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอกของกธ ที่ออกให้กับผู้เอาประกันฝ่ายผิดด้วย
ส่วนค่าซ่อมรถเราเคลมกับกธ ของเราเองในหมวดความเสียหายต่อตัวรถ ซึ่งเป็นคนละกธ กัน ประกันฝ่ายผิดต้องรับผิดชอบหมวดชีวิตและทรัพย์สินบุคคลภายนอกตามวงเงินที่กำหนดไว้ด้วย


- การเรียกร้องดอกเบี้ย กรณีผิดนัด เรียก 15% นับจากวันผิดนัด ทนายฝ่ายผิดจะถามว่า เอามาจากไหน
ต้องอ้างอิงประกาศ คปภ  ดูเอกสาร หน้า 4 ข้อ 6 กรณีกธ ภาคสมัครใจ
http://www1.oic.or.th/upload/motorinsurrance/download/720-8321.pdf


- เรื่องค่าใช้จ่ายในการ เข้าสู่กระบวนการ ของ อนุญาโตตุลาการ 
การแสวงหาความยุติธรรม ด้วยอนุญาโต ตุลาการ จะต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมต่าง ประมาณ 1 หมื่นจ่ายให้ทางฝ่ายอนุญาโต และค่า ทนาย อีกประมาณ 2 หมื่น แล้วแต่ ตกลงกับทนาย ว่าจะจ้างเท่าไหร่
รวมประมาณ ไม่ต่ำกว่า 3 หมื่น ในการเปิดประตู แสวงหาความยุติธรรม ด้วยวิธีนี้
     ซึ่งนับว่า แพงพอสมควร หาก เสนอข้อพิพาท ที่ เรียกร้องต่ำกว่า 3 หมื่น ย่อม ไม่คุ้มกับค่าใช้จ่าย และค่าเสียเวลา ดีไม่ดี อาจชี้ขาดมา ต่ำกว่า 3 หมื่น กลายเป็นขาดทุนไป